วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เกี่ยวกับโค้ช

  

        

   ก่อนที่จะมาเป็นโค้ช โค้ชโจ เคยเป็นนักแสดงตัวประกอบมาก่อนเมื่อปี 2557 
ตอนนั้นอยู่ในช่วงที่กำลังรุ่งในเรื่องงานประจำ แต่มีรับงานพิเศษในด้านบันเทิง 
แต่ก็ไม่มากเท่าที่ควร และเมื่อปี 2558 เคยประสบความล้มเหลว 
ในเรื่องการงาน และความรัก พร้อมกัน สืบเนื่องจากที่ทำงานตอนโค้ชโจทำได้รับ 
ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ฟองสบู่แตก ในด้าน อสังหาริมทรัพย์ 
ช่วงมิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งนานมาแล้ว และมีปัญหาในเรื่องทุนทรัพย์ไม่พอกับรายจ่าย 
ตัดสินใจหาอะไรทำเพิ่ม และช่วงนั้นที่บ้านก็มีปัญหาเช่นกัน 
โค้ชโจเอง ใช้เวลาตอนที่ไม่มีงานส่ง เป็นเวลา 2 เดือนกว่า เข้าสัมมนาที่เกี่ยวกับ 
การพัฒนาตนเอง การรู้จักตนเอง การสร้างสัมพันธ์ รวมถึง หลักการลงมือทำ 
  ด้วยความที่เข้าฟังสัมมนานับครั้งไม่ถ้วน ไม่ว่าทั้งยอมลงทุนสิ่งนั้น และ เข้าฟรี ผมจึงตัดสินใจ
เลือกช่องทางสร้างชีวิต โดยการ เข้าแวดวง ขายความรู้ ด้วย อาชีพเสริมคือ Coaching 
แต่ยังไม่มีใครยอมรับ สักทีเดียว ผมจึงทุ่มเท ตั้งใจ เข้าฟังสัมมนาและเรียนรู้ รวมถึงใช้เวลากับตนเอง 
เลื่อยมา และในที่สุดได้ค้นพบ ความชัดเจนในตัวตนเจอตั้งแต่ ตอนเสร็จสิ้น 
ค่ายอบรมที่ต่างจังหวัดไปแล้ว ณ.วินาทีนั้น


     วัตถุประสงค์ในการโค้ช และการให้ข้อมูล

  1. เพื่อการวิเคราะห์ตนเอง ซึ่งสังคมไทยส่วนใหญ่นั้น ยังไม่ชัดเจนกับตัวตนเท่าที่ควร 
บางทีโชคร้ายสมัครงานแล้ว 50ที่ยังไม่ตอบกลับ บางทีล้มเหลวทุกอย่างในชีวิตจนไร้ทางออก 
แต่ทว่า ก็ล้มเลิกความตั้งใจนั้นลงไป ด้วยเสียงดูแคลนจากผู้อื่นว่า เราไม่เหมาะสม ฉันดีไม่พอ 
และแบบไหนที่ดีพอที่ต้องการ หรือ การมีข้ออ้างต่างๆนาๆที่เป็นกั้นขวางคอไม่อนุญาตให้คนนั้นไปต่อ 
รวมถึงคิดแทนสถานการณ์ที่ยังไม่เกิด ในทางกลับกัน ก็ลืมใช้เวลากับตนเองเพื่อหาจุดดีจุดนั้น 
และบอกกับตนเองว่า คุณยังมีโอกาสชัดเจนได้อีก และกำลังหาจุดเด่นที่ไม่มีโอกาสได้ใช้
สามารถต่อยอดทำอย่างอื่นได้มากมาย เพื่อตนเองได้รู้จักตนเองในคุณค่าที่มาจากด้านในทั้งสิ้น

  2. สร้างสัมพันธ์ ณ.ปัจจุบัน ในขณะนี้ เข้าสู่สังคมก้มหน้ามานานแล้ว แต่การใช้เวลานั้น 
ละเลยไปจนไม่สามารถให้เวลากับคนที่เรารักไปได้เลย ไม่ว่าจะครอบครัว หรือ คนรอบข้าง 
สำหรับคนที่โสดอยู่ในปัจจุบัน กี่วันแล้วกี่วันเล่า ที่ยังไม่เจอใครที่มาเป็นคู่ชีวิตอย่างจริงจังซะที 
บ่อยครั้งไม่รู้ว่าจะใช้สื่อแบบไหนที่สามารถให้คนๆนั้น เปิดใจยอมรับตัวเราได้ อย่าลืมว่า 
ไม่ต้องศัลยกรรม ไม่ต้องหน้าดีเลิศเกินความจำเป็น ขอแค่มีความมั่นคงและมั่งคั่งพอสามารถมีความรักได้ 
อาจจะใช้เวลาแต่ก็ดีกว่าปล่อยเฉย โดยเฉพาะคนที่แฟนแล้ว จะมีวิธีรับมืออย่างไร 
ห้ความรักนั้นสามารถมั่นคงและอยู่ร่วมกันได้ตลอดเวลา

 3. ปลุกพลัง เพิ่มศักยภาพตนเอง ภายหลังที่รู้จักตนเองแล้ว แต่บ่อยครั้งเวลาที่แนะนำตัว 
ให้กับ Connection ใหม่ที่คุณกำลังมุ่งหาและทำความรู้จัก และสร้างโอกาสโดยการร่วมงาน 
หรือเวลาที่เสนอเนื้อหาหรือบรรยายในเรื่องต่างๆ ต่อหน้ากลุ่ม องค์กร หรือที่ประชุม 
บ่อยครั้งอาจมีโอกาสปิดใจได้ ด้วยเหตุนี้ เราจะควบคุมความเป็นตัวเราอย่างไรที่สามารถ
ทำให้คนอื่นเห็นแววของตัวเรา โดยการพูด นำเสนอ ให้ตนเองมั่นใจ และ
ทำให้ผู้ฟังในที่ประชุมรู้สึกเปิดใจ 
มากขึ้นและสามารถมี Connection ติดต่อหาคุณต่อเนื่องทุกวัน

 4. สร้างโฟกัส ถึงความต้องการที่แท้จริง ว่าอยากสำเร็จในรูปแบบไหนที่ตนพอใจ 
ด้วยงานสร้างชีวิตประเภทไหนที่ตรงจริตใจของตัวเรา 
อยากให้เกิดขึ้น ในวันเดือนปี และ เวลาที่จะต้องชัดเจน บ่อยครั้งมักจะไม่กล้าเผชิญปัญหา 
ทำให้รออารมณ์ ไม่พร้อมโน้น นั่น นี่ ชอบผัดวันประกันพรุ่ง มีข้ออ้าง จนสุดท้ายที่จะทำให้เกิดขึ้นจริง 
จนถอยห่างออกไปจนเหลือแค่ ความรู้สึก นั่นคือสิ่งที่ จะต้องทำให้ชัดเจนจริงๆ
ในหลักการลงมือทำโดยจริงจัง จริงใจในพันธะสัญญา 
แต่อาจจะมีเงื่อนไขที่จะต้องอดทน และต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ 
เพื่อก้าวข้ามอุปสรรคทั้งหลาย หลังจากนี้

    นี่คือ แกนหลักในการสร้างตัวตน ให้รู้จักตนเองในคุณค่าแห่งการยอมรับในที่ตนเป็น 
และ มั่นใจในการใช้ชีวิต เพื่อคุณจะมีชีวิตที่มั่นคง มั่งคั่ง มีความยืนหยัดชัดเจนในตัวตน 
และนำพาไปสู่ความสำเร็จได้ในแบบที่คุณต้องการ เกิดขึ้นจริง และมีผลลัพธ์เหนือขีดจำกัด ขึ้นตลอดไป

           

     วิสัยทัศน์ ของ โค้ชโจ

    สิ่งที่โค้ชโจ มองนั้น คือ โอกาส ทุกๆอย่างที่มีการเรียนรู้ ผมมิอาจจะได้ร่วงรู้เลยว่า 
ผู้ใดมาก่อน หรือมาหลัง แต่สิ่งที่คิด เห็น และสัมผัสได้คือ “เป้าหมายปลายทาง” 
ดังนั้น อย่าไปโฟกัสที่ต้นทางเพียงอย่างเดียว เพราะ โอกาสที่แจ้งเกิดบนเวที แห่งความสำเร็จจริงๆ 
จะยากเป็นเท่าตัว และอาจใช้เวลาที่นาน และห่างไกล แต่ถ้าหาก คนที่อยากจะประสบความสำเร็จแบบจริงแท้นั้น
จะต้อง โฟกัสทั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทาง พร้อมกันทั้งสามระยะ 
วิธีนั้นแหละจะช่วยให้คุณ ขับเคลื่อนให้คุณประสบความสำเร็จได้ 
แต่ต้องลงมือทำ ตลอดเวลา โฟกัสและทบทวนเป้าหมายอยู่ทุกวัน จะต้องใช้เวลาสร้างสัมพันธ์เพื่อวิเคราะห์ใจตน 
ให้จูลคลื่นความคิด ความต้องการให้ตรงจริตกับงานที่ขับเคลื่อน 
และอาจจะต้องมีเงื่อนไขที่จะต้อง เสียสละบางอย่าง เพื่อมิให้เกิดห่วงหน้าพะวงหลัง 
ทำให้ชีวิตคุณไปต่อได้ และรักษาพันธะสัญญาที่จะทำอย่างต่อเนื่อง ตั้งใจจริง 
ด้วยใจที่สัตย์ซื่อ ผมไม่มุ่งเอาอะไรจากตัวเค้า 
แต่ผมอยากให้ในสิ่งที่ผมทำได้แล้วและเกิดคุณค่า ไปบอกกล่าวให้เข้าใจ 



Fanpage Facebook : CoachJo Piyathep

YouTube Channel : Piyatraining

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น