วันเสาร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2559

กว่าจะเป็นโค้ช




   ทำไมถึงจะเป็น โค้ช  ???

   โค้ชปล่อยโอกาส ไปครั้งหนึ่ง เมื่อ10ปีที่แล้ว โค้ชเคยแพ้ เพราะเสียงคำดูถูกจากคนอื่น เป็นเวลานานแสนนาน แต่ทว่า ผมยังลุกขึ้นสู้ชีวิตด้วยใจไม่ยอมแพ้ ผมคาดหวังไว้เสมอว่า สักวันหนึ่งจะประสบความสำเร็จทุกอย่าง อะไรก็ได้ ที่สามารถทำให้ผู้คนหยุดดูถูกดูแคลน ด่าว่าปั่นทอนหัวใจ และช่วงนั้นไม่ค่อยชัดเจน ขณะนั้นเอง โค้ชมุ่งหาความฝัน อยากจะแสดงบนเวที โดยการโชว์เต้น และประกวดร้องเพลง โค้ชใช้เวลานั้นตั้งแต่ ปี 2554จนถึง2556 3ปีเต็มในช่วงนั้น สุดท้ายมันไม่ใช่ดั่งใจคิด ก็เลยเลิกไป ตอนเรียนจบและรับปริญญา แล้วหลังจากนั้นก็หันมาทำงานประจำ ในด้านการสื่อสารและการบริการ น่าเสียดายที่ไปได้สวยแล้ว ผมก็เลยช่วยงานทางบ้าน เป็นกิจการทำเครื่องประดับทำส่งทั่วไป เงินเดือนก็ดีนะ แต่ในระยะหลังที่เกิดช่วง2ปีสุดท้าย ในปี 2557 โค้ชเคยลงทุนให้กับธุรกิจเครือข่าย และล้มแบบไม่เป็นท่าเปลี่ยนแนวทางเปลี่ยนเลื่อยมาสามที่แล้ว และในปี 2558 ที่ทำงานทางบ้านมีปัญหา งานหด โค้ชใช้เวลาที่เว้นว่างนั้น ไปเข้าอบรมสัมมนา เป็นระยะเวลา 2เดือนเศษ ตั้งแต่ช่วงปลายมิถุนายน เข้าฟังทั้งเสียเงินและเข้าฟรี เป็นระยะต่อเนื่องและนับไม่ถ้วน จนกระทั่งได้รู้จักตนเองว่า เรามีจุดเด่นอะไร มีดีอะไรที่มองไม่เห็น และสามารถแบ่งปันสิ่งนั้นให้กับคนอื่นสืบต่อกันได้ ดังนั้นจึงตัดสินใจ เป็นโค้ช โค้ชปล่อยเวลา รอโอกาสนั้นมานานแล้ว และโค้ชจะไม่ปล่อยโอกาสนั้น หลุดเลยและละเลยไป เป็นครั้งสอง อีกต่อไป นี่คือโอกาสของจริงซึ่งโค้ชต้องพิสูจน์ ว่า “หน้าตาไม่ใช่อุปสรรคบนเส้นทางความสำเร็จ” 

      แน่ใจไหม ว่า แนวทาง การโค้ช คือ คุณแน่นอน ???

   โค้ชแน่ใจ และ ผมจะดำเนินเส้นทางนี้ อย่างเต็มร้อย แม้คนอื่นจะไม่ยอมรับในระยะแรก จนระยะกลางบ้าง ตราบใดถ้าหัวใจของโค้ช ยังไม่หยุดหายใจ หรือล้มเลิกซะก่อน ผมจะพัฒนา หาความชัดเจน และเรียนรู้จากการโค้ชตลอดเวลา ต้องมีสักคนที่จะต้องเข้าใจในสิ่งที่โค้ชได้ให้ คุณภาพชีวิต และ วิธีการรวมวิธีคิด อีกด้วย นี่คือ สิ่งที่กำลังทำ และพร้อมที่จะมอบให้ นักศึกษาที่มีความตั้งใจที่อยากสำเร็จ หรือ คนที่จบใหม่และยังไม่แน่นอนกับชีวิต นั่นแหละคือสิ่งที่ต้องการจะให้ โดยไม่มุ่งหวัง แต่เป็นการทำให้เห็นภาพ ความชัดเจนในตัวตน เท่านั้น

     ก่อนที่จะเป็น โค้ช เคยมีผลงานอะไรมาก่อน 


   โค้ชเคยทำเพลงของตัวเอง แต่ไม่ถึงกับมืออาชีพเท่าไหร่ แค่มือสมัครเล่น และเคยเกาะติดเรื่องของคนบันเทิง ในแนวป็อบ หรือแนวที่คนนิยมฟัง โค้ชเคยประกวดร้องเพลงมาหลายรายการ แต่ไม่ติด สักเวที บางรายการก็มีออกทีวี เป็นบางครั้งบางคราว โค้ชเคยร่วมงานกับศิลปิน อีกด้วยอย่าง ปี2557
       ถ่ายเอ็มวี เพลง Love Never Felt So Good-Michael Jackson (Ver.Thaifans) กับค่าย BEC Tero Musicผมปรากฏตอนตัดถัดไปจาก น้องเกล ไทยแลนด์ก็อต โผล่พอดี
      ถ่ายเอ็มวี เพลง โน้ตที่ใช่ในวันที่ช้ำ The Ginkz ร่วมงานกับ บุคคลดังในโลกออนไลน์ สุดฮา แร็พเอก
 ก่อนหน้า คือ เอ็มวี ที่Cover หรือเลียนแบบ ศิลปิน หลายคน อาทิ แบล็คแจ็ค เจ เจตริน ธามไท กัมนัมสไตล์
พีเจ พลอยจันทร์ และอื่นๆ รวมถึงออกอีเว้นท์ ไปทำการแสดงที่งานของคณะ ที่มหาวิทยาลัย และสนามแบทเทิ้ลแดนซ์ เท่านั้น และยิ่งไปกว่านั้น ผมยังมีออกคอนเสิร์ตงานๆหนึ่ง ซึ่งเป็นงานเฉพาะกลุ่มคนรักไมเคิ้ล แจ็คสัน โดยเฉพาะ

        คุณใช้หลักอะไรในการโค้ช และมีคนเข้ามาโค้ชเท่าไหร่แล้ว ???

     หลักการสำคัญทางศาสตร์การโค้ช ของโค้ชโจ เนื้อหาสำคัญในการให้คุณภาพชีวิต หรือสิ่งที่จะมอบให้เป็นความรู้ในการนำเสนอ ไม่ใช่แค่สอน หรือ เทรนเนอร์ เท่านั้น สิ่งนั้นคือ 4หัวใจในการสร้างตนในแบบที่ใช่ เพราะ ก่อนที่จะมีความรัก ก่อนที่จะปลุกตนเอง หรือลงมือทำ สิ่งที่ต้องไม่ละเลยคือ

        “คุณจะต้องรู้จักตนเองในคุณค่าจากด้านในเสียก่อน”

      หากยังไม่ผ่านตรงนั้น จะไม่มีวันเข้าใจเลยว่าหลักการที่จะทำให้ ชีวิตดี๊ดี มีตนตัวที่ใช่จริงๆ เป็นอย่างไรหนำซ้ำ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จ จริงๆ อาจจะห่างไกล เท่าตัว เป็นอย่างมาก




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น