วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2559

ตนที่ใช่ สู่สำเร็จ EP.1 Debut Part2/2

   

     ช่วงที่ไม่มีงาน งานหดหาย ผมจึงตัดสินใจเพิ่มเวลาที่ว่าง ไม่ให้เกิดสูญเปล่าจึงตัดสินใจ
 เข้าสัมมนา เกี่ยวกับเรื่องหลักการใช้ชีวิต และบุคคลที่ประสบความสำเร็จ เขาคิดอย่างไร
 เขามีวิธีการไหนกันแน่ ระหว่างนั้น มีเขียนจดหมายเรื่องของความรักของผม ให้กับ
 รายการคลับฟลายเดย์ โดยมี ดีเจอ้อย และ ดีเจฉ็อด ดำเนินรายการ จากนั้น ก็ตั้งกระทู้ให้กับ
 เว็บหนึ่ง เป็นนักสร้างแรงบันดาลใจ ด้านหลักการใช้ชีวิต คุณป็อบ และ คุณนัท ก็ตั้งเรื่องนั้น
 ชื่อเรื่องว่า ความรัก มันอยู่ที่ หน้าตา หรือ จิตใจ กันแน่ มันดูเลวร้ายนะ แต่จำเป็นต้องเขียนเพื่อ
 ความสบายใจ



   จากนั้นเป็นต้นมา ผมทุ่มเงินทั้งหมด ให้กับสัมมนา นับตั้งแต่นั้น เป็นเวลา 2เดือนกว่า กว่าจะหา
 ตนเองเจอ และหาความชัดเจน ช่วงปลายปี 2558 อยู่ที่ เดือน 10 ผมจังประกาศอำลา ด้วยความสุดท้าย
 เป็นข้อความของบุคคลหนึ่ง ซึ่งมาด่าโพสต์ผมผ่านเฟส ช่วงต้นปี 2558 และทำให้ผมเสียใจมาก ก็เลย
 โพสต์ให้รู้แล้วรู้รอดไป และมีคนให้กำลังใจแค่บางส่วนเท่านั้น วันต่อมา โค้ชสอง ส่งข้อความมาหา
 ตัวผม ไม่รู้ว่า ไปรู้ข่าวจากใครมาก หรือเห็นเอง เขาบอกว่า

    “มีเซอร์ไพร์สพิเศษ มอบให้ ถ้าสนใจ Inbox มาครับ”

   ผมทั้งชื่อ และเบอร์โทร ไปที่หน้าเพจน์นั้นจริงๆ และโทรกลับหาผมทันที ทันใดนั้นมีประโยค
 แว๊บ เข้ามา เป็นบท ทดสอบชีวิต และแล้ว ผมก็รู้สึกว่า “- - มันจะไหวเหรอ ค่ายทรหด แบบนั้น”
 น้ำตาจิไหล มาก ตกเย็น ทีมงาน ของ โค้ชสอง โทรมาให้เตรียมตัว ผมจึงตัดสินใจแพ็คของเสื้อผ้า
 เท่าที่จำเป็น เพราะค่ายทรหดนั้น ใช้ระยะเวลา 3วัน2คืน ในระหว่างนั้น ก็มีบททดสอบ หลายด่าน
 แทบกระดูกจะหัด ก็เป็นได้ ตอนท่องกฎนักรบ โค้ชสอง เคร่งเครียดมาก พอถึงตัวผม โดนจับเรียกมาคุย
 ทั้งแบบ โหด เหี้ยม แต่ทว่า เขาหวังดีเพื่อเรา ได้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม ผมสื่อความว่าอย่างนั้น
 ไปจนถึงวันสุดท้ายของค่ายทรหด ได้ทั้งพลังงาน พลังใจ และมิตรภาพที่มีต่อค่าย ทรหดนั้น เพิ่มขึ้น

  ไปจนถึง เดือนสุดท้ายของปี 2558 ภายหลังจาก จบจากสัมมนา NLP เบื้องต้น ของ
โค้ชวันชัย ประชาเรืองวิทย์ ผมได้ความชัดเจนแล้วว่า ต่อจากนี้ไป จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ในขณะที่
 มีความหวังใหม่เปร่งแสงขึ้น กำลังไปต่อแล้ว ในช่วงก่อนคริสต์มาส น้องชายของผม มาปรากฏ
 ที่ทำงาน มาเยี่ยมเยียน ถึงที่ ผมเกิดรู้สึก o.o ตกใจหนักมาก และถือโอกาสดี
 ที่จะได้เคลียร์กับเขา เหมือนได้โค้ชชิ่งกับเค้าโดยตรง เกี่ยวกับเรื่องที่มาแย่งความรักหมดทั้งครอบครัว
 ทั้งที่ความจริง แค่มาอยู่กับพ่อเท่านั้นเอง ปล่อยให้ผมเข้าใจผิดเป็นเวลานาน
 และในที่สุด ทุกอย่างก็จบ ตัวผมนอนตายตากลับสบาย ตื่นมา ได้พบกับวันที่สดใส
 และได้ค้นพบ ตัวตนด้านใน Mirror Value อย่างแท้จริง เป้าหมายชัดเจนขึ้นแล้วคือ
 การเป็นโค้ช หรือ Coaching นี่เอง

   ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะมีคนดูถูกดูแคลนมากก็ตาม หรือไม่มีแม้กระทั่งคนสนใจคุณ
 ผมมีความเชื่อว่า สักวันหนึ่งจะได้เห็นคุณงามความดีของตัวผม อีกสักครั้ง ความสำเร็จที่เกิดขึ้น
 อาจมีเงื่อนไขมากก็ตาม ผมทะยายขึ้นไป ให้เท่ากับ พลังงานความเร็วแสง ด้วย
 บทพิสูจน์ของหัวใจ ให้คนที่ดูถูกหรือเคยต่อต้านเราว่า
   “….ฉันทำได้”
  “…..ฉันสามารถ”
  “ฉันสามารถส่งคุณค่าที่ได้ผลลัพธ์นั้นแล้ว บอกต่อกับคนอื่นโดยการโค้ชได้!!!!

 ฟังดู มัน ใหญ่ มาก แต่ผมจริงจังกับนั้น และ ท่องกับตนเองในปลายทางนั้น ทุกวัน………


 





 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น