ผม โจ เป็น Mirror Value Inspiration นักสร้างแรงบันดาลใจ ในเรื่อง
คุณค่าของตัวตนภายใน
เกิดวันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2532 ราศี สิงห์ ปีนักษัตร มะเส็ง
อุปนิสัย โดยรวม เป็นคนจริงจัง
วิสัยทัศน์กว้าง เข้าใจคนทุกประเภท
จุดเด่นในตัวตน คือ มุ่งมานะ
ยิ้มเก่งเมื่อเจอคนที่ดีต่อเรา
จุดแข็งในตัวตน คือ
ทุ่มกับเป้าหมายที่ทำ และสร้างคุณค่าเกิดมูลค่าสูงสุด
ก่อนเป็นโค้ช เคยเป็นนักเต้นมือสมัครเล่นมาก่อน เริ่มแรก ซ้อมเต้นไปงั้นๆ
แต่พอเอาจริง ก็มีคนทึ่งตกตะลึ่งบ้าง
แรกๆก็ทึ่ง แต่ระยะหลังก็มีเสียงคนที่มาดูถูกดูแคลน เยอะมาก
ตั้งแต่ตอนทำชีวประวัติตัวผม
เอาไปลงยูทูป ในขณะนั้น มีความรู้สึกว่า
“ทำไมต้องว่าผม ด้วย
ผมไปทำอะไรให้คุณหนักอกหนักใจหรือเปล่า”
ภายหลังจากนั้น ก็มีการเริ่มแข่งเต้น ในเวที S’club star cover dance
ในช่วงวันที่ 4 เมษายน ปี 2554 หลังจากที่เสร็จจากการประกวดนี้เสร็จ
เดือนถัดมา
ผมไปประกวดร้องเพลง
บนเวทีรอบออดิชั่นหลายรายการ เช่น ทรู เอเอฟซีซั่น8
เคพีเอ็น21 เดอะสตาร์ปี8 ปี9 โชมิวสิคจากบริษัทอาร์เอส
ประกวดวีเจ จากChannel V Thailand เดอะว้อยด์2
ไทยแลนด์ก็อตซีซั่น4 KeepYour light และ ล่าสุด ซีซั่น5 ซึ่งเป็นเวทีสุดท้าย ถามว่า เข้ารอบมั้ย
ตอบได้ว่า “ที่พูดมาทั้งหมด ตกรอบทุกเวที ครับ”
แต่มีเวทีที่ แสนประทับใจ
และทำเต็มร้อยซ้อมเต็มร้อย แล้ว คือ เวที ไทยแลนด์ก็อตทาเล้นท์ ซีซั่น5
ผมใช้เวลาซ้อมทุกวัน ตอนเย็นจนเกือบ5ทุ่ม ใกล้เที่ยงคืน เล่าเรื่องนั้นไป
ก็สะเทือนใจมากขึ้น ทำให้เกิด
ปลุกพลังในตัวตนเรา มากขึ้น จนกระทั่ง
ช่วงวันที่ 1 เดือน 5 ปี 2558
ตัวผมตื่นนอน ตั้งแต่ตอน ตี5 ออกจากบ้าน 6 โมงกว่า ไปถึงอักษระคิงพาวเวอร์ ช่วง 8
โมงเช้า และมีติดสติ๊กเกอร์เบอร์ผู้ประกวด มีการต่อคิว
มีเม้าท์ทูเม้าท์ กับผู้เข้าประกวดด้วยกัน เกี่ยวกับประสบการณ์ผม
และเวทีการประกวดอื่นๆอีกด้วย ถึงเวลาออดิชั่นจริงๆ เป็นช่วงเวลาเกือบ 5 โมงเย็นครับ ผมมองว่า ผู้เข้าประกวด ส่วนใหญ่แล้ว เป็นทีมทั้งนั้น
ถึงเวทีจริง ผมเล่าในทำนองว่า
“ มีเด็กคนหนึ่ง ซึ่งเกิดมาจาก ต้นตระกูลที่บกพร่องมาตั้งแต่เด็ก คือ
พ่อแม่แยกทางกัน ตอนเด็ก
ทุกข์ทรมาน เลื่อยมาตลอดจน เหตุการณ์ช่วงหนึ่ง ได้เกิดเรื่องกับตัวผม
จากคู่กรณีตนหนึ่ง
เขามาต่อว่าผม ว่า ค้ายา เมายา เท่านั้นไม่พอ
แถมมีล้อถึง ครอบครัวของผมด้วย
ไม่เข้าใจว่า
เป็นโรคอะไรกัน ถึงต้องมาล้อเลียน
ต่อว่าบั่นทอนจิตใจ ผมด้วย .......... ตลอดจน
ผมเอาลูกบอกไปเฟี้ยงใส่เค้า
ต่อหน้าห้องปกครอง ทำให้เกิดอาจารย์ห้องปกครองไม่พอใจ ในตัวผม
โทรเรียกคนที่บ้าน
เรียกคนขับรถไปรับผม จนเสียโอกาสการเรียนไป ครึ่งวัน…………..”
พอบอกเล่าเรื่องได้ไม่นาน คณะกรรม กดกากาบาท ติ๊ด....!
ติ๊ด....! ติ๊ด.....! ติ๊ด…..!
จบ
สิ่งที่เกิดขึ้น คือ คณะกรรมทั้ง4 คน พูดเป็นเสียงพร้อมกันว่า “ยัง ไม่ผ่าน”
แค่นั้นล่ะ ทำให้ผม Fell ทันที
วันถัดมา ก็หันมาเข้าโบถส์เพื่อทบทวน สิ่งเกิดขึ้นในคราวนั้น
จากนั้นมาเข้าเดือนหก
ก็เกิดสิ่งที่เลวร้ายตามมา คือ ที่ทำงานถูกกระทบ
ด้วย วิกฤตฟองสบู่แตก ราคาทองลง หุ้นตก
และทันใดนั้นงานน้อย
ไม่มีใครจ้างงานการแสดงให้ผมแล้ว
ผมรู้สึกเหงา และเครียดด้วย
กำลังจะให้เวลากับพ่อ ก่อนที่ไม่มีโอกาส ทันใดนั้น พ่อเห็นผมเข้า
หนีเลย และเวลาถัดมา อีกสัปดาห์หนึ่ง
ผมตัดหัวตนเองให้โล้น เพื่อล้างสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ออกไป
To be Continue
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น